สำหรับผู้ที่เริ่มต้นเข้าสู่โลกการลงทุนกองทุน (Mutual Fund) และ ETF คำว่า nav คือ อาจฟังดูเป็นเรื่องวิชาการที่ยุ่งยากไปหน่อย แต่ความจริงแล้วตัวเลขนี้เป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถทำความเข้าใจมูลค่าที่แท้จริงของการถือหน่วยลงทุนของตนเองได้
NAV ใช้ประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนอย่างไร?
เมื่อพูดถึงการประเมินว่ากองทุนใดมีประสิทธิภาพดี นักลงทุนมักมองไปที่ NAV ที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว กองทุนที่มีศักยภาพในการบริหารจัดการสินทรัพย์ให้เพิ่มมูลค่าได้ดี มักสะท้อนผ่านการขยายตัวของ NAV เมื่อเทียบเคียงกับกองทุนตัวอื่นที่มีนโยบายการลงทุนและสินทรัพย์คล้ายคลึงกัน ผลมาจากการที่ NAV เติบโตหมายความว่ากองทุนนั้นสร้างกำไรให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนได้อย่างแท้จริง
ในทางตรงข้าม หากสังเกตเห็นว่า NAV ของกองทุนค่อนข้างจึกจะติดกับระดับดิ่มเดิม หรือเติบโตด้วยอัตราที่ช้ามากเมื่อเปรียบเทียบกับกองทุนอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน นี่อาจเป็นสัญญาณแสดงว่าความสามารถในการบริหารจัดการสินทรัพย์ของกองทุนนั้นอาจไม่เพียงพอ
NAV (มูลค่าสินทรัพย์รวมตามราคาตลาด) คำนวณและนำไปใช้อย่างไร?
NAV = (มูลค่าสินทรัพย์ที่ถืออยู่ตามราคาตลาด + ผลตอบแทนสะสมและเงินสด) – ค่าใช้จ่ายและหนี้สินของกองทุน
จากนั้นจึงนำ NAV มาหารด้วยจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมด เพื่อได้ NAV ต่อหน่วย ซึ่งเป็นตัวเลขที่นำมาใช้ในการซื้อขายหน่วยลงทุนจริง
ยกตัวอย่างเช่น หากกองทุน X ครอบครองทรัพย์สินประกอบด้วย อสังหาริมทรัพย์มูลค่า 8 ล้านบาท หุ้นบริษัท B จำนวน 1,500 หุ้น ราคาปิดหุ้นละ 800 บาท ไม่มีหนี้สิน NAV ของกองทุน X จะเป็น 8,000,000 + (1,500 × 800) = 9,200,000 บาท หากกองทุนนี้ออกหน่วยลงทุน 250,000 หน่วย NAV ต่อหน่วยจะเท่ากับ 9,200,000 ÷ 250,000 = 36.80 บาท
ความแตกต่างระหว่าง NAV ต่อหน่วยกับราคาหุ้น
แม้ว่า NAV ต่อหน่วยและราคาหุ้นจะถูกใช้เป็นราคาในการซื้อขาย แต่ทั้งสองมีลักษณะพื้นฐานที่แตกต่างกัน ราคาหุ้นเกิดจากการต่อรองซื้อขายระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายในตลาด ดังนั้นจึงสะท้อนอุปสงค์และอุปทาน ณ ขณะนั้น ส่วน NAV ต่อหน่วยนั้นสะท้อนถึงมูลค่าสินทรัพย์ที่แท้จริงของกองทุน คำนวณจากราคาปิดของวันก่อนหน้า
เทียบเท่ากับการนำ NAV มาเป็นตัวแทนของมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น (Book Value Per Share - BVPS) มากกว่าราคาตลาดที่มีความผันผวน
ข้อควรระวังที่นักลงทุนต้องทราบเมื่อใช้ NAV
NAV ที่เห็นอยู่ปัจจุบันไม่ใช่ราคาซื้อขายแน่นอน
ตัวเลข NAV ที่นักลงทุนสามารถเข้าไปดูได้ในแต่ละวันคือ NAV ของวันก่อนหน้านั้น ราคาซื้อขายจริงจะเกิดขึ้นหลังสิ้นวันและประกาศเป็น NAV ในวันถัดมา ดังนั้นเมื่อนักลงทุนส่งคำสั่งซื้อขาย ราคาที่ได้จะไม่เหมือนกับตัวเลขที่เห็นในแอปพลิเคชัน
ตัวเลข NAV ไม่ได้บ่งบอกว่ากองทุนนั้นแพงหรือถูก
NAV ต่อหน่วยที่สูงหรือต่ำไม่สะท้อนความคุ้มค่า การที่ NAV สูงอาจมาจากสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง หรือกองทุนมีจำนวนหน่วยลงทุนที่ออกไปน้อย นักลงทุนจึงต้องสำรวจคุณภาพของสินทรัพย์ และเปรียบเทียบการดำเนินงานจริงๆ ไม่ใช่แค่มองตัวเลข NAV เพียงอย่างเดียว
โครงสร้างของกองทุนบางประเภททำให้ NAV อาจลดลงเป็น 0
กองทุนบางประเภท เช่น กองทุนลงทุนในสิทธิการเช่า (Leasehold) อาจมี NAV ลดลงจนเหลือศูนย์เมื่อครบอายุสัญญา นักลงทุนต้องอ่านเงื่อนไขการลงทุนให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจ
สรุป
nav คือ เครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้นักลงทุนกองทุนเข้าใจมูลค่าแท้ของการลงทุนของตนเอง เมื่อทำความเข้าใจว่า NAV คำนวณอย่างไรและควรอ่านอย่างไร นักลงทุนจะสามารถประเมินประสิทธิภาพของกองทุนและเลือกกองทุนที่เหมาะสมกับเป้าหมายการลงทุนของตนได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องจำไว้ว่า NAV เป็นเพียงตัวบ่งชี้ตัวหนึ่ง การตัดสินใจลงทุนที่ดีต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
Voir l'original
Cette page peut inclure du contenu de tiers fourni à des fins d'information uniquement. Gate ne garantit ni l'exactitude ni la validité de ces contenus, n’endosse pas les opinions exprimées, et ne fournit aucun conseil financier ou professionnel à travers ces informations. Voir la section Avertissement pour plus de détails.
Pourquoi les investisseurs en fonds doivent-ils connaître la NAV et comment évaluer leurs investissements ?
สำหรับผู้ที่เริ่มต้นเข้าสู่โลกการลงทุนกองทุน (Mutual Fund) และ ETF คำว่า nav คือ อาจฟังดูเป็นเรื่องวิชาการที่ยุ่งยากไปหน่อย แต่ความจริงแล้วตัวเลขนี้เป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถทำความเข้าใจมูลค่าที่แท้จริงของการถือหน่วยลงทุนของตนเองได้
NAV ใช้ประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนอย่างไร?
เมื่อพูดถึงการประเมินว่ากองทุนใดมีประสิทธิภาพดี นักลงทุนมักมองไปที่ NAV ที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว กองทุนที่มีศักยภาพในการบริหารจัดการสินทรัพย์ให้เพิ่มมูลค่าได้ดี มักสะท้อนผ่านการขยายตัวของ NAV เมื่อเทียบเคียงกับกองทุนตัวอื่นที่มีนโยบายการลงทุนและสินทรัพย์คล้ายคลึงกัน ผลมาจากการที่ NAV เติบโตหมายความว่ากองทุนนั้นสร้างกำไรให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนได้อย่างแท้จริง
ในทางตรงข้าม หากสังเกตเห็นว่า NAV ของกองทุนค่อนข้างจึกจะติดกับระดับดิ่มเดิม หรือเติบโตด้วยอัตราที่ช้ามากเมื่อเปรียบเทียบกับกองทุนอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน นี่อาจเป็นสัญญาณแสดงว่าความสามารถในการบริหารจัดการสินทรัพย์ของกองทุนนั้นอาจไม่เพียงพอ
NAV (มูลค่าสินทรัพย์รวมตามราคาตลาด) คำนวณและนำไปใช้อย่างไร?
NAV (Net Asset Value) หรือที่เรียกว่า มูลค่าสินทรัพย์รวมตามราคาตลาด คือการแสดงมูลค่ารวมของสินทรัพย์ทั้งหมดที่กองทุนนั้นครอบครองอยู่ ตามราคาที่สะท้อนสภาวะตลาดในแต่ละวัน เครื่องมือวัดนี้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในการลงทุนกองทุนและสัญญา ETF เพื่อให้นักลงทุนเห็นภาพจริงของมูลค่าสินทรัพย์ที่ครอบครองอยู่
การคำนวณ NAV นั้นทำได้โดยการ:
NAV = (มูลค่าสินทรัพย์ที่ถืออยู่ตามราคาตลาด + ผลตอบแทนสะสมและเงินสด) – ค่าใช้จ่ายและหนี้สินของกองทุน
จากนั้นจึงนำ NAV มาหารด้วยจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมด เพื่อได้ NAV ต่อหน่วย ซึ่งเป็นตัวเลขที่นำมาใช้ในการซื้อขายหน่วยลงทุนจริง
ยกตัวอย่างเช่น หากกองทุน X ครอบครองทรัพย์สินประกอบด้วย อสังหาริมทรัพย์มูลค่า 8 ล้านบาท หุ้นบริษัท B จำนวน 1,500 หุ้น ราคาปิดหุ้นละ 800 บาท ไม่มีหนี้สิน NAV ของกองทุน X จะเป็น 8,000,000 + (1,500 × 800) = 9,200,000 บาท หากกองทุนนี้ออกหน่วยลงทุน 250,000 หน่วย NAV ต่อหน่วยจะเท่ากับ 9,200,000 ÷ 250,000 = 36.80 บาท
ความแตกต่างระหว่าง NAV ต่อหน่วยกับราคาหุ้น
แม้ว่า NAV ต่อหน่วยและราคาหุ้นจะถูกใช้เป็นราคาในการซื้อขาย แต่ทั้งสองมีลักษณะพื้นฐานที่แตกต่างกัน ราคาหุ้นเกิดจากการต่อรองซื้อขายระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายในตลาด ดังนั้นจึงสะท้อนอุปสงค์และอุปทาน ณ ขณะนั้น ส่วน NAV ต่อหน่วยนั้นสะท้อนถึงมูลค่าสินทรัพย์ที่แท้จริงของกองทุน คำนวณจากราคาปิดของวันก่อนหน้า
เทียบเท่ากับการนำ NAV มาเป็นตัวแทนของมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น (Book Value Per Share - BVPS) มากกว่าราคาตลาดที่มีความผันผวน
ข้อควรระวังที่นักลงทุนต้องทราบเมื่อใช้ NAV
NAV ที่เห็นอยู่ปัจจุบันไม่ใช่ราคาซื้อขายแน่นอน
ตัวเลข NAV ที่นักลงทุนสามารถเข้าไปดูได้ในแต่ละวันคือ NAV ของวันก่อนหน้านั้น ราคาซื้อขายจริงจะเกิดขึ้นหลังสิ้นวันและประกาศเป็น NAV ในวันถัดมา ดังนั้นเมื่อนักลงทุนส่งคำสั่งซื้อขาย ราคาที่ได้จะไม่เหมือนกับตัวเลขที่เห็นในแอปพลิเคชัน
ตัวเลข NAV ไม่ได้บ่งบอกว่ากองทุนนั้นแพงหรือถูก
NAV ต่อหน่วยที่สูงหรือต่ำไม่สะท้อนความคุ้มค่า การที่ NAV สูงอาจมาจากสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง หรือกองทุนมีจำนวนหน่วยลงทุนที่ออกไปน้อย นักลงทุนจึงต้องสำรวจคุณภาพของสินทรัพย์ และเปรียบเทียบการดำเนินงานจริงๆ ไม่ใช่แค่มองตัวเลข NAV เพียงอย่างเดียว
โครงสร้างของกองทุนบางประเภททำให้ NAV อาจลดลงเป็น 0
กองทุนบางประเภท เช่น กองทุนลงทุนในสิทธิการเช่า (Leasehold) อาจมี NAV ลดลงจนเหลือศูนย์เมื่อครบอายุสัญญา นักลงทุนต้องอ่านเงื่อนไขการลงทุนให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจ
สรุป
nav คือ เครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้นักลงทุนกองทุนเข้าใจมูลค่าแท้ของการลงทุนของตนเอง เมื่อทำความเข้าใจว่า NAV คำนวณอย่างไรและควรอ่านอย่างไร นักลงทุนจะสามารถประเมินประสิทธิภาพของกองทุนและเลือกกองทุนที่เหมาะสมกับเป้าหมายการลงทุนของตนได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องจำไว้ว่า NAV เป็นเพียงตัวบ่งชี้ตัวหนึ่ง การตัดสินใจลงทุนที่ดีต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ด้วยเช่นกัน