Qu'est-ce qui cause l'inflation ? Les investisseurs doivent le savoir avant de planifier leurs investissements

ตอนนี้เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญหน้ากับภาวะที่ดูเหมือนจะเรียบง่าย แต่ส่งผลกระทบลึกลงไปถึงฐานะการเงินของทุกคน นั่นคือ เงินเฟ้อเกิดจากอะไร เมื่อราคาสินค้าแพงขึ้นเรื่อยๆ บทความนี้จะพาคุณเข้าใจว่า เงินเฟ้อ เกิดจากสาเหตุใด และสิ่งที่ควรทำเพื่อให้เงินของคุณไม่เสียค่าในภาวะนี้

ทำไมราคาถึงแพงขึ้น? เงินเฟ้อเกิดจากอะไรจริงๆ

เงินเฟ้อ ไม่ใช่เพียงแค่ปรากฏการณ์ที่ราคาเพิ่มขึ้น แต่เป็นภาวะเศรษฐกิจที่มูลค่าของเงินลดลงอย่างต่อเนื่อง ผลที่ตามมาคือ เมื่อคุณหยิบ 50 บาทไปซื้อของเดิมที่เคยซื้อได้หลายชิ้น วันนี้มันเหลือแค่ชิ้นเดียว

เงินเฟ้อเกิดจากอะไร มีสาเหตุหลัก 3 ประการ

1. ความต้องการซื้อสินค้าเพิ่มมากขึ้น (Demand Pull Inflation)
หลังจากเศรษฐกิจฟื้นตัว ผู้คนกลับต่อแต่อยากซื้อของ ทำให้ความต้องการเกินกว่าปริมาณสินค้าที่มี ผู้ขายจึงนำโอกาสนี้ปรับราคาขึ้น

2. ต้นทุนการผลิตพุ่งขึ้น (Cost Push Inflation)
ราคาน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ เหล็ก ทองแดง ล้วนแพงขึ้นจากปัญหา supply chain disruption ผู้ผลิตต้องแบกรับต้นทุนนี้จึงถูกบังคับให้ขึ้นราคาสินค้า

3. การพิมพ์เงินมากเกินไป (Printing Money Inflation)
เมื่อรัฐบาลปล่อยเงินออกมามากเกินความต้องการจริง ปริมาณเงินในระบบจึงเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาทั่วไปสูงขึ้นตามไปด้วย

คราวนี้ภาวะเศรษฐกิจโลกเป็นไง?

นักเศรษฐศาสตร์ของ IMF คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะเติบโตปานกลางที่ 3.1% ในปี 2567 และ 3.2% ในปี 2568 ข่าวดีคือ อัตราเงินเฟ้อกำลังลดลงจากจุดสูงสุด แต่จากข้อมูลเมื่อเดือนมกราคม 2567 ดัชนีราคาผู้บริโภคของไทยยังเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.11 เมื่อเทียบกับปีก่อน

สาเหตุการลดลงมาจากมาตรการลดค่าพลังงานของรัฐและการลดลงของราคาสินค้าอาหารสด แต่เมื่อมองไปข้างหน้า ความเสี่ยงยังคงอยู่จากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์

เงินเฟ้อสูงขึ้นหรือลดลง? ลองดูตัวเลขจริง

เมื่อมองย้อนหลังประวัติศาสตร์เงินเฟ้อของไทย:

• ปี 2517: 24.3% (เหตุสงครามอิสราเอล)
• ปี 2541: 7.89% (หลังวิกฤติเศรษฐกิจ)
• ปี 2565: 7.10% (สงครามรัสเซีย-ยูเครน)

ส่วนราคาสินค้าสำคัญในตลาดไทย:

• หมูเนื้อแดง: เพิ่มจาก 137.5 บาท/กก. (2564) เป็น 133.31 บาท/กก. (2567)
• น้ำมันดีเซล: พุ่งจาก 28.29 บาท/ลิตร (2564) เป็น 40.24 บาท/ลิตร (2567)
• พริกขี้หนู: ผันผวนจาก 45-250 บาท/กก. ตามฤดูกาล

ใครจะได้กำไรจากเงินเฟ้อ? ใครจะเสีย?

ได้ประโยชน์:

• ผู้ประกอบการ: สามารถขึ้นราคาสินค้าได้ตามสถานการณ์
• ผู้ถือหุ้นและเจ้าของธุรกิจ: บริษัทเช่น ปตท. ทำกำไร 64,419 ล้านบาทในครึ่งปีแรก ตัวอย่างเหมือนนายธนาคาร ที่ได้ส่วนต่างดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น
• ผู้ถือหนี้: หากยืมเงินมา ต้องชำระคืนด้วยเงินที่มีค่าน้อยลง

เสียเปรียบ:

• คนรายได้ประจำ: เงินเดือนเพิ่มไม่ทัน เงินเฟ้อจึงกำไรผลการเงิน
• ผู้มีเงินออมนอน: เงินเก่าในกระเป๋าลดค่าลงเรื่อยๆ ถ้าไม่นำไปลงทุน

ต้องทำอย่างไรเมื่อเงินเฟ้อแสดงตัว?

1. หลีกเลี่ยงปล่อยเงินนอนเฉย

ดอกเบี้ยเงินฝากต่ำ เงินของคุณก็จะรั่วไหล ควรนำไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ

2. ลงทุนในสินทรัพย์มั่นคง

• ทองคำ: ยิ่งเงินเฟ้อสูง ราคาทองคำยิ่งสูง ถือว่าเป็นการป้องกันตัว
• อสังหาริมทรัพย์: ค่าเช่าเพิ่มตามเงินเฟ้อ ไม่ผันผวนตามตลาดหุ้น

3. เลือกหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อ

• หุ้นธนาคาร: ดอกเบี้ยสูงขึ้น กำไรเพิ่มขึ้น
• หุ้นประกัน: ลงทุนในพันธบัตรที่ได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น
• หุ้นอาหาร: สิ่งจำเป็นที่คนต้องซื้อ มีอำนาจต่อรอง

4. ตราสารหนี้ประเภท Floating Rate หรือ Inflation Linked Bond

อัตราดอกเบี้ยจะปรับขึ้นตามเงินเฟ้อจริง

5. เทรดสินค้าที่เคลื่อนไหวตามเงินเฟ้อ

เทรด CFD ทองคำเป็นวิธีที่ได้กำไรทั้งขาขึ้นและขาลง

เงินเฟ้อกับเงินฝืด: ตรงกันข้ามอย่างไร?

ทั้งคู่ในระดับสูงล้วนเป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจและชีวิตประจำวัน

สิ่งที่นักลงทุนต้องจำ

เงินเฟ้อเกิดจากอะไร ขึ้นอยู่กับปัจจัยมากมาย แต่สิ่งสำคัญคือ เมื่อรู้แล้วคุณต้องเคลื่อนไหว ยิ่งนั่งนิ่งไว้ นั่งดูค่าเงินหาย ดีกว่าจึงให้ เงินเฟ้อเกิดจากอะไร นั้นเป็นข้อมูลที่บอกคุณว่าตลาดกำลังเคลื่อนไหว และตอนนี้คือโอกาสของคุณ

ติดตามข่าวสารเศรษฐกิจอยู่เสมอ วางแผนลงทุนให้เหมาะสม และจำไว้ว่า การลงทุนที่ชาญฉลาดจะช่วยให้เงินของคุณไม่เสื่อมค่า