Ця сторінка може містити контент третіх осіб, який надається виключно в інформаційних цілях (не в якості запевнень/гарантій) і не повинен розглядатися як схвалення його поглядів компанією Gate, а також як фінансова або професійна консультація. Див. Застереження для отримання детальної інформації.
Країна з найкращим обмінним курсом для міжнародних переказів у 2025 році
เมื่อพูดถึงการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ ไม่ใช่ทุกเงินที่มีความเท่ากัน บางสกุลเงินเพียงหน่วยเดียวก็สามารถแลกได้เป็นจำนวนมากเมื่อเทียบกับสกุลเงินตั้งต้น ปัญหาที่มักเกิดขึ้นคือ นักลงทุนและผู้ค้นหาข้อมูลมักสับสนว่า “ค่าเงินที่แพงที่สุด” หมายถึงอะไรจริง ๆ และอันไหนคือสกุลเงินที่ควรติดตามในตลาดโลก
บทความนี้จะนำเสนออันดับของค่าเงินที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ณ ปี 2568 โดยอ้างอิงจากอัตราแลกเปลี่ยน 1 หน่วยต่อดอลลาร์สหรัฐ (USD) พร้อมเจาะลึกเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังความแข็งแกร่งของแต่ละสกุลเงิน
กำไลสีทองจากมหาดา: ดีนาร์คูเวต อยู่ที่จุดสูงสุด
ถ้าหากจะมีสกุลเงินที่ครองตำแหน่งราชาของโลกได้ชั้นนึง ก็ต้องเป็น ดีนาร์คูเวต (KWD) ที่มีอัตราแลกเปลี่ยน 1 KWD = 3.26 USD ซึ่งหมายความว่า หากคุณมีเงินดีนาร์คูเวตเพียง 1 หน่วย ก็เทียบเท่ากับถือเงินดอลลาร์ถึง 3.26 เหรียญ
สาเหตุของความแข็งแกร่งนี้มาจากแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ คูเวตส่งออกน้ำมันดิบราว 3 ล้านบาร์เรลต่อวัน และยืนอยู่ในอันดับที่ 10 ของผู้ผลิตน้ำมันโลก สิ่งนี้สร้างรายได้ที่ยอดเยี่ยมให้กับประเทศ ทำให้รายได้ต่อหัวประชากรเกินกว่า 20,000 ดอลลาร์ต่อปี
ดีนาร์คูเวตเริ่มใช้มาตั้งแต่พ.ศ. 2503 โดยเข้ามาแทนที่สกุลเงินเดิมชื่อ Gulf Rupee ปัจจุบันคูเวตใช้นโยบายการตรึงค่าเงินกับตะกร้าเงินสากล ซึ่งเป็นวิธีการที่ช่วยให้ค่าเงินคงอยู่ในระดับที่มั่นคงและไม่ผันผวนตามลม
ผู้สนับสนุนจากเกาะเล็ก: ดีนาร์บาห์เรนและเรียลโอมาน
หากคิดถึงสกุลเงินประเทศตะวันออกกลางอื่น ๆ ก็ต้องพูดถึง ดีนาร์บาห์เรน (BHD) ที่มีมูลค่า 1 BHD = 2.65 USD นี่คือสกุลเงินอันดับสองที่แพงที่สุด บาห์เรนเป็นเกาะเล็ก ๆ แต่มีภูมิอำนาจทางเศรษฐกิจสำคัญ เนื่องจากมีบทบาทเป็นศูนย์กลางการเงินในมหาวิทยาลัยอ่าวเปอร์เซีย
นโยบายของบาห์เรนคือการตรึงค่าเงินให้คงอยู่กับเงินดอลลาร์สหรัฐ และได้ใช้นโยบายนี้มาตั้งแต่พ.ศ. 2544 จนถึงปัจจุบัน อัตราเงินเฟ้อของบาห์เรนนั้นต่ำ (ประมาณ 0.8%) ซึ่งเป็นเหตุให้สกุลเงินนี้มีเสถียรภาพสูงแม้ว่ามีการตรึงค่า
ส่วน เรียลโอมาน (OMR) นั้นมีมูลค่า 1 OMR = 2.60 USD และเป็นอันดับที่สาม โอมานเป็นผู้ผลิตน้ำมันอันดับ 21 ของโลกโดยผลิตได้ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน และประเทศนี้ได้บรรลุการเติบโตทางเศรษฐกิจ 4.1% ในปีที่แล้ว ด้วยดุลบัญชีเดินสะพัดที่ยังคงเกินดุลตลอด
จากผู้ไม่ใช่ผู้ผลิตน้ำมัน: ดีนาร์จอร์แดนและสกุลเงินยุโรป
ดีนาร์จอร์แดน (JOD) อยู่ในอันดับที่ 4 ด้วยอัตรา 1 JOD = 1.41 USD จอร์แดนแตกต่างจากประเทศอื่น ๆ ในรายชื่อนี้ คือไม่ขึ้นอยู่กับรายได้จากน้ำมัน แม้ว่าอัตราการเติบโตของประเทศจะอยู่ที่ 2.7% เท่านั้น และ GDP ต่อหัวประชากรมีเพียง 3,891 ดอลลาร์ต่อปี แต่จอร์แดนยังคงรักษาเงินสำรองระหว่างประเทศอยู่ที่ 13,533 พันล้านดอลลาร์ ณ สิ้นปี 2566
ในแวดวงสกุลเงินยุโรป ปอนด์สเตอร์ลิง (GBP) ของสหราชอาณาจักรมีมูลค่า 1 GBP = 1.33 USD เป็นอันดับที่ 5 ปอนด์เป็นสกุลเงินโบราณที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ในแต่ยุคสมัยก็ยึดค่าเงินกับตัวช่วยต่างกัน ตั้งแต่เงินเทพณรมย์ไปจนถึงทองคำ
อังกฤษเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก และลอนดอนยังคงเป็นศูนย์กลางการเงินที่สำคัญแห่งหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีส่วนแบ่งเทคโนโลยีที่มีมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ อยู่ในอันดับที่ 3 รองจากสหรัฐและจีน ความเข้มแข็งของเศรษฐกิจอังกฤษนี้คือพื้นฐานของความแข็งแกร่งของปอนด์สเตอร์ลิง
สกุลเงินพื้นที่และภูมิภาค
ปอนด์ยิบรอลตาร์ (GIP) เป็นสกุลเงินอย่างเป็นทางการของยิบรอลตาร์ ดินแดนโพ้นทะเลของอังกฤษในคาบสมุทรไอบีเรีย โดยผูกอัตราไว้ที่ 1:1 กับปอนด์สเตอร์ลิง ดังนั้น 1 GIP = 1.33 USD โดยพื้นฐานแล้ว GIP นั้นใช้สำหรับธุรกรรมภายในท้องถิ่นเท่านั้น แม้ว่าปอนด์สเตอร์ลิงก็ได้รับการยอมรับเช่นกัน
ดอลลาร์หมู่เกาะเคย์แมน (KYD) มีมูลค่า 1 KYD = 1.20 USD เป็นสกุลเงินของศูนย์กลางการเงินนอกชายฝั่งที่มีชื่อเสียง หมู่เกาะเคย์แมนตรึงค่าเงินไว้ที่ 1.20 USD มาตั้งแต่ปี 1970 และนโยบายนี้ยังคงมีผลอยู่ถึงปัจจุบัน ความแข็งแกร่งของ KYD ได้รับการสนับสนุนจากสภาพแวดล้อมการเงินที่เสถียร นโยบายภาษีต่ำ และหน้าที่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการเงินระหว่างประเทศ
สกุลเงิน “ที่ปลอดภัย” ของยุโรป
ฟรังก์สวิส (CHF) นั้นเป็นตัวแทนความเป็น “ที่ปลอดภัย” ในตลาดการเงินโลก มีมูลค่า 1 CHF = 1.21 USD ฟรังก์สวิสเริ่มใช้มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 และตั้งอยู่บนรากฐานของกฎหมายที่กำหนดให้ต้องสำรองทองคำสูงสุดถึง 40% เพื่อหนุนค่าเงิน
ในช่วงเวลาที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจหรือสงครามระดับโลก สวิตเซอร์แลนด์กลายเป็นเมืองกลาง และสินทรัพย์ต่างๆ ก็ไหลเข้าสู่ประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง สิ่งนี้ส่งผลให้ฟรังก์สวิสกลายเป็นสกุลเงินที่เป็นสัญลักษณ์ของความน่าเชื่อถือและเสถียรภาพ
ยูโร (EUR) เป็นสกุลเงินค่อนข้างใหม่ที่เริ่มใช้ตั้งแต่พ.ศ. 2542 แม้ว่าจะใช้ในการซื้อขายทันทีตั้งแต่นั้น แต่การเลิกใช้เงินสดในสหภาพยุโรปกลับมีการเปลี่ยนแปลงทั่วไปในปี 2002 ยูโรใช้ได้ใน 20 ประเทศสมาชิกของยูโรโซน
ค่าเงินยูโรมีการผันผวนที่น่าสนใจ ในช่วงสามปีแรก มูลค่าน้อยกว่าดอลลาร์ แต่ต่อมาก็เข้มแข็งขึ้นและสูงสุดในปี 2551 ที่ 1 EUR = 1.60 USD ปัจจุบันยูโรอยู่ที่ 1 EUR = 1.13 USD และเป็นสกุลเงินสำรองของการประชุมสำหรับการเรียบเรียงสัญญาของ IMF ได้ 29.31% ตลอดจนเป็นสกุลเงินสำรองระหว่างประเทศที่ใช้มากที่สุดอันดับสอง ที่ 19.58% ของเงินสำรองตัดสินใจระหว่างประเทศทั้งหมด
ตารางเปรียบเทียบค่าเงินที่มีมูลค่าสูงสุดในปี 2568
บทสรุป: มูลค่าไม่ใช่เพียงตัวเลข
ค่าเงินที่มีมูลค่าสูงไม่ได้หมายความว่าจะมีความสำคัญทางเศรษฐกิจมากที่สุด หรือว่าจะเป็นตัวเลือกลงทุนที่ดีที่สุด กรรมการลงทุนที่ชาญฉลาดจะต้องพิจารณาปัจจัยหลายด้าน ตั้งแต่ความน่าเชื่อถือของรัฐบาล ความเสถียรของเศรษฐกิจ นโยบายการเงิน และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ในปี 2568 นี้ คุณจะเห็นว่าสกุลเงินที่อยู่ในรายชื่อนี้นั้นมาจากหลากหลายแหล่ง ตั้งแต่ประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่ร่ำรวย ไปจนถึงเศรษฐกิจที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงของยุโรป แต่ความเหมือนกันประการหนึ่งก็คือพวกมันล้วนแต่ได้รับการสนับสนุนจากฐานาน เศรษฐกิจที่มีความแข็งแกร่งและสภาพแวดล้อมการเงินที่มีเสถียรภาพ
การเข้าใจเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังค่าเงิน และไม่เพียงแต่มองตัวเลขเท่านั้น จะช่วยให้คุณตัดสินใจลงทุนในตลาดการแลกเปลี่ยนเงินตราได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้น